ห้องที่ ๑๔๘ : ขุนภักดีอาษา


           ปางจักรวรรดิแต่งให้ สุพินมาร
นำสาสน์สู่บาดาล ลุด้าว
แถลงเหตุมาตยพนักงาน กรุงกุรุ ทราบเอย
สองรีบเฝ้าทูลท้าว กุรุแล้วอ่านสาส์น
           ว่ามีมนุษยหน่อไท้ ทธรฐ
นามสัตรุศพระพรต พี่น้อง
เนื่องขัติยยงยศ อยุทธเยศ กรุงเอย
พยุหทัพเพียบพลพ้อง พวกพื้นพานรินทร์
           หักด่านผลาญยักษแม้น เพลิงเผา นาพ่อ
ตั้งอยู่มยุราเขา เฃตรแคว้น
มล้างสามปิยบุตรเรา ลาญชีพ แล้วแฮ
เชิญพระสหายแก้แค้น ขจัดเสี้ยนศึกเข็ญ
           กุรุราชทราบสาสน์กริ้ว สั่งพัท จักรเฮย
เรียบพยุห์สี่เหล่าขนัด แน่นหล้า
คชสีห์สี่พันจัด เทียมรถ ทรงแฮ
ขุนรถกุมธนูร้า ท่าจ้องจักผจญ
           เสร็จสรงทรงเครื่องต้อง ตามวาร ฤกษนา
จับจักรคทาตาล ลาศเต้า
เถลิงรถเร่งพลมาร พยุหะ คลาเอย
ผุดแผ่นดินรีบเข้า เฃตรแคว้นมลิวัน
           ลุพลานมารเสดจขึ้น มณฑิรา ไลยแฮ
จักรวรรดิทัศนาปรา โมทยแท้
เชิญสถิตย์แท่นท้าวพา ทีเรื่อง ศึกเอย
เจ้ากุรุรับจักแก้ จักกู้การณรงค์
           อสุรีสี่ภักตร์ใช้ ชาวงาน
จัดเครื่องโภชนตระการ แต่งตั้ง
สองเสวยร่วมไชยบาน บานเบิก กระมลนา
แซ่ศับท์ขับรำทั้ง พาทย์ซ้องดีดสี
          อำมาตย์กุรุราชทั้ง พลพฤนทร์
บ้างรับสุราผิน ภักตร์แย้ม
พลไกรไพร่ทมิฬกิน เกินขนาด
เกรี้ยวกราดอาจเต็มแต้ม ต่างอ้างอวดหาญ
           จักรวรรดิกุรุราชเจ้า บาดาล
โสมนัศทัศนาการ ฝ่ายฟ้อน
จนล่วงรัติกาลมาร เสรจร่วม ผธมเอย
พอรุ่งกุรุราชสท้อน จิตรเร้ารอญเข็ญ
           ตริศึกเสร็จท้าวสั่ง พระสหาย แล้วนา
พลันเสดจพลับพลาราย ราพน้อม
บัณฑูรทั่วมาตยนาย หมวดตรวจ พหลเฮย
พัทจักรจัดขบวนพร้อม รถม้ามารสาร
           มหุรดิฤกษกุรุราชเจ้า จอมบา ดาลเอย
เถลิงรถยาตรพหลพา หนะห้อม
ลุสนามรบอสุรา ธิราชอยุด ทัพแฮ
ชุมพยุหพลพร้อม โห่เร้าเตือนณรงค์
           ปางนราธิราชน้อง หริวงษ
ผธมตื่นเสรจสรงทรง เครื่องต้น
ออกอาศน์มาตยมวญพงษ์ พานเรศ เฝ้าเอย
เสียงศึกกึกก้องล้น หลากท้าวถามโหร
           พิเภกไสยสาตรแจ้ง จบชาญ เชี่ยวแฮ
ตริทราบกราบทูลสาร แด่ไท้
ว่าศึกยักษไวยตาล สหายจักร วรรดินา
เรืองจักรคทาได้ ผ่านด้าวบาดาล
           ทรงทราบตรัสสั่งน้อง พาลี
จัดพยุหกาก์มี ชื่อตั้ง
ล้วนขุนกบินทร์พี ริยภาพ
พลไพร่ยักษลิงรั้ง สลับริ้วโดยขบวน
          พระพรตชวนกนิฐไท้ สรงสนาน
องค์อ่าอาภรณ์กาญจน์ ก่องแก้ว
ทรงศรกฤษณเคยราญ อรินราช
ศุภฤกษพร้อมพยุหแกล้ว เกลื่อนพื้นพานร
           ทรงรถที่นั่งแม้น รวิจันท์ร แลฤๅ
พระอนุชเสด็จเคียมคัล นั่งหน้า
พรรฦกเหล่าพลขันธ์ นับสมุท
ขุนรถขับพระยาม้า รีบเมื้อสมรภูมิ์
           ไวยตาลยืนรถยั้ง ยังสมร ภูมิ์เอย
ทอดพระเนตรเหนพานร ไม่น้อย
อสุเรศร์เลื่อนรถจร จวบพระ พรตนา
สองกระษัตริย์ต่างถ้อย ปะทะท้าราวี
           อสุรีเร่งไพ่รพร้อม สัปรยุทธ์
พลกบี่ตีรุกรุด ยักษร้าย
ลิงทลวงอุตลุดผลุด ผลาญราพ มลายแฮ
รณภพรณพาณผ้าย เผ่นล้างพลกบินทร์
           นิลพัทบัดศึกสู้ รณภพ มารแฮ
อสุรผัดรณพาณรบ กลอกกลิ้ง
สองทหารจักรกฤษณ์ตลบ ล้างแทตย์ โทเอย
ฟันฟาดขาดเศียรทิ้ง แทบท้าวไวยตาล
           พระยามารขับรถเข้า ตลุมบร
สองทหารราญรอญ ราพท้าว
หลานลมแล่นล้างนิกร มารมอด ม้วยนา
บุตรพระกาลกาจกร้าว ชิดกระชั้นชิงไชย
           ฉุดกระชากงอนรถเจ้า อสุรี
กวัดแกว่งแผลงฤทธี เรี่ยวล้ำ
ฟาดลงกับปัถพี เพียงพินาศ ลงฤๅ
สิงหราชรถแหลกซ้ำ เลอียดทั้งโลทัน
          กุมภัณฑ์กุรุราชล้ม เจียนลาญ ชีพแฮ
คว้าจักรคทาทยาน ลุกเร้า
สิบสองอริราชราญ พลพ่าย พังเฮย
ราพวิโรธรีบรุดเข้า เคี่ยวคั้นขุนกรบินทร์
           น้องรามหมายราพแล้ว ทรงศร แผลงเอย
เสียงสนั่นครั่นดินดอน ทั่วด้าว
ศรสาตรกลาดเกลื่อนรอญ ราญราพ
ติดทั่วปรุองค์ท้าว กุรุแม้นเจียนมรณ์
           ราพร้ายร่ายเวทแล้ว ลูบสกนธ์
ศรหลุดคว่างจักรผจญ ไล่ล้าง
เหล่าพวกไพร่ลิงพล พินาศกลาด เกลื่อนนา
มืดมิดปิดโลกยกว้าง เล่ห์กลุ้มโลกันต์
           องค์อนุชหริรักษน้าว จันทวา ทิตย์เอย
แผลงจักรแหลกสว่างพา นเรศฟื้น
ซ้ำต้องอกอสุรา ปลิวตก ดงแฮ
แทตยโลดถลันห่อนลื้น แล่นล้างพานร
           นิลพัทโผนจับได้ ไวยตาล
ฟาดกับพสุธามาร แทบม้วย
ยักษขยาดยุทธการ ตริพิ ธีเอย
เร่งเลิกทัพกลับด้วย พยุห์เข้าเมืองมาร
           พระอนุชพิศณุทั้ง พหลหาญ
ล้างเหล่าพลมารลาญ ชีพแล้ว
พอพระสุริยฉาน ลับเหลี่ยม เมรุฤๅ
เสดจกลับพลับพลาแผ้ว ผ่องพร้อมพานรินท์ร
           ไวยตาลมารสู่ท้าว มลิวัน
แถลงศึกทั้งพิธีพลัน สั่งไว้
ให้เร่งขัดทัพขัน วันว่าง สามนา
ลาจักรวรรดิเสรจไท้ สู่ด้าวบาดาล

จบห้องที่ ๑๔๘

  เนื้อความกล่าวถึงท้าวจักรวรรดิแต่งสารให้สุพินนำไปถวายท้าวไวยตาลสหายผู้เป็นเจ้าเมืองกุรุราชใต้บาดาล เล่าเรื่องศัตรูมาโจมตีเมืองมลิวัน สังหารโอรสทั้งสามของพระองค์ และขอให้ท้าวไวยตาลมาช่วยทำศึก ท้าวไวยตาลจึงยกทัพจากเมืองบาดาลแทรกแผ่นดินขึ้นมา พระพรตทราบจากพิเภกว่าท้าวไวยตาลยกทัพมาช่วยท้าวจักรวรรดิรบ จึงยกทัพออกไปพร้อมพระสัตรุด ทัพทั้งสองฝ่ายสู้รบกัน นิลพัทสู้กับรณภพ อสุรผัดสู้กับรณพาล พญาวานรทั้งสองตัดศีรษะยักษ์ทั้งสอง แล้วรุกเข้าไปทำลายรถทรงของท้าวไวยตาลแหลกละเอียด ท้าวไวยตาลตกจากรถ คว้าจักรและคทาเข้าต่อสู้ พระพรตแผลงศรเสียบทั่วร่างท้าวไวยตาล แต่ท้าวไวยตาลร่ายเวทให้ศรหลุดออกได้ แล้วขว้างจักรสังหารพลวานรตายเกลื่อนกลาด และบังแสงอาทิตย์จนมืดมิด พระพรตจึงแผลงศรจันทวาทิตย์ทำลายจักร ทำให้ฟ้าสว่าง เหล่าวานรคืนชีพ แล้วศรแล่นปักอกท้าวไวยตาลกระเด็นล้มลง นิลพัทโผนเข้าจับฟาดกับพื้น ท้าวไวยตาลเห็นว่าศึกครั้งนี้หนักหนาจึงสั่งเลิกทัพ แล้วไปทูลท้าวจักรวรรดิให้รบขัดตาทัพก่อน ๓ วัน ตนขอลาไปทำพิธีชุบตะบองตาลที่เมืองบาดาล